Present
Perfect Tense
Present
Perfect Tense ถูกสร้างขึ้นโดยมีกริยาช่วย have,
has อยู่ในประโยคหรือกริยาแท้ของประโยค
present perfect tense จะเป็นกริยาช่องที่ 3
เสมอ
ซึ่งโดยมากแล้วจะอยู่ในรูปกริยา เติม -ed (finished,
decided, arrested, improved, arrived, เป็นต้น) ซึ่งเรียกว่า regular
verb ส่วนกริยาช่องที่
3 ที่ เป็น irregular verb และถูกนำมาใช้ใน present
perfect tense บ่อยๆ
ก็มี lost, done, been, written เป็นต้น
โครงสร้าง : Subject + have , has + Verb 3
(ประธาน + have, has + กริยาช่อง 3)
-Has:
ใช้กับประธานเอกพจน์จำพวก
he, she, it, Tom เป็นต้น
-Have: ใช้กับประธานพหูพจน์จำพวก
we, they, you, Tom เป็นต้น
ตัวอย่าง :
-We have
been here for three
days.
(พวกเราอยู่ที่นี่มา 3 วันแล้ว)
(พวกเราอยู่ที่นี่มา 3 วันแล้ว)
หลักการใช้ Present Perfect
Tense
1. ใช้แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินเรื่อยมาจนถึงขณะที่พูดและมีท่าทีว่าจะดำเนินต่อไปอีกในอนาคต โดยมี
Adverb of time: for, since, up to now, until now, so far, up to the present,
recently, lately
-
He has lived here since 1969.
-
He has lived here for thirteen years.
-
He has lived here since his mother died.
-
We have had no trouble with our T.V. set so for. (Up to now)
-
Somchai has studied English for 5 years.
(สมชายเรียนภาษาอังกฤษมา
5 ปีแล้ว ขณะนี้ก็ยังเรียนอยู่)
-
I have worked in this company since 1990.
(ฉันทำงานในบริษัทนี้ตั้งแต่ปี1990
ขณะนี้ก็ยังทำอยู่)
-
He has lived in Bangkok since 1990.
(เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ.
1990)
เมื่อต้องการแต่งประโยค
Present Perfect Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง
Verb to have ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง
: Subject + have , has + not + Verb 3
(ประธาน
+ have, has + not + กริยาช่อง
3)
ตัวอย่าง
:
-I
have not studied English for 5 years.
(ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง
5 ปี)
-
He has not lived in Bangkok since 1990.
(เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ.
1990)
2.
ใช้กับเหตุการณ์ที่เคยหรือไม่เคยทำในอดีต ซึ่งมิได้บ่งบอกเวลาที่แน่นอนเอาไว้ และมักจะมีคำวิเศษณ์ คือ
ever, never, once, twice มาใช้ร่วมเสมอ
-
I have never seen him before.
(ฉันไม่เคยเห็นเข้ามาก่อน)
-
Have you ever been abroad?
(คุณเคยไปต่างประเทศหรือเปล่า)
-
She has been to Bangkok twice.
(หล่อนเคยไปกรุงเทพฯ
2 ครั้ง)
3. ใช้แสดงเหตุการณ์ หรือ การกระทำซึ่งได้เกิดขึ้นแล้วในอดีต แต่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อใดแน่หรือไม่ได้บ่งไว้แน่ชัดว่าเกิดขึ้นเมื่อใด มักมี
adverb of time เป็นเครื่องชี้บอกว่า เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง หรือ หลายครั้งแล้ว:
many times, several times, over and over, again, once, twice, three times, ever
(never) etc.
-
I have visited U.S.A. many times.
-
Have you ever studied French?
-
No, I have never studied French.
4. ใช้แสดงเหตุการณ์ หรือ การกระทำซึ่งเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเพิ่งสิ้นสุดก่อนเวลาที่พูดเล็กน้อย หรือ เหตุการณ์ที่ทำแล้วเสร็จอย่างเรียบร้อยแล้ว โดยจะพบ
Just, already, yet
-
He has just come in.
-
The train has already left.
-
They haven’t finished this work yet.
**หมายเหตุ
*yet ใช้ใน
negative sentence และ interrogative sentence เท่านั้น
ประโยค Present Perfect Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง
Verb to have ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Subject + have , has + not + Verb 3
(ประธาน + have, has + not + กริยาช่อง 3)
ตัวอย่าง :
- I
have not studied English for 5 years.
(ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง 5 ปี)
- He
has not lived in Bangkok since 1990.
(เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990)
ประโยค Present
Perfect Tense เชิงคำถามและการตอบ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มีความหมาย เชิงคำถามให้นำVerb to have มาวางไว้หน้าประโยค และตอบด้วย Yes หรือ
No ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Have, Has + Subject + Verb 3
?
(Have,
Has + ประธาน + กริยาช่อง 3?)
ตัวอย่าง :
-
Have you studied English for 5 years?
(คุณเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้วใช่หรือไม่)
- Yes,
I have.
(ใช่ ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 5
ปีแล้ว)
- No, I haven’t.
(ไม่ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง 5 ปี)
- Has
he lived in Bangkok since 1990?
(เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 ใช่หรือไม่)
-
Yes, he has.
(ใช่เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1990)
-No,
he hasn’t.
(ไม่เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990)
วิธีการสร้างประโยค Present Perfect Tense
โครงสร้าง
|
Subject + has/have + Verb 3
|
|||||||||
ประโยคบอกเล่า
|
I / You / We / They
|
have
|
talked
|
to her.
|
||||||
He / She / It
|
has
|
slept
|
on the couch.
|
|||||||
โครงสร้าง
|
Subject + has/have + not + Verb 3
|
|||||||||
ประโยคปฏิเสธ
|
I / You / We / They
|
have
|
not
|
talked
|
to her.
|
|||||
He / She / It
|
has
|
not
|
slept
|
on the couch.
|
||||||
โครงสร้าง
|
Has/Have + Subject + Verb 3?
|
|||||||||
ประโยคคำถาม
|
Have
|
I / you / we / they
|
talked
|
to her?
|
||||||
Has
|
he / she / it
|
slept
|
on the couch?
|
|||||||
โครงสร้าง
|
Who/What/Where/When/Why/How + has/have + Verb 3?
|
|||||||||
ประโยคคำถาม
Wh- |
Who
|
have
|
I / you / we / they
|
talked to?
|
||||||
Where
|
has
|
he / she / it
|
slept?
|
*คำปฏิเสธรูปย่อของ
has/have not คือ
hasn’t และ haven’t
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น